เส้นทางท่องเที่ยวออนเซ็นลับของอาคิตะ (2 คืน 3 วัน)

・เวลาที่ระบุไว้เป็นเวลาโดยเฉลี่ย
・หลังจากกรอก MAPCODE แล้ว กรุณาตรวจสอบจุดหมายปลายทางให้แน่ใจก่อนจึงเริ่มออกเดินทาง

บ่อออนเซ็นลับที่ผุดขึ้นบนภูเขาสูง 1,100 ม. จากระดับน้ำทะเล มีทั้งน้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติที่ไหลมาจากตาน้ำแร่และไอน้ำแร่ร้อนที่ใช้ความร้อนจากใต้โลก “ไอน้ำแร่ร้อน” ที่เป็นเอกลักษณ์เป็นการใช้ประโยชน์จากความร้อนของพื้นดิน โดยนำเสื่อมาปูที่พื้นซึ่งมีความอุ่นเพื่อใช้นอนหรือนั่ง ซึ่งสามารถได้ผลลัพธ์เหมือนกับการแช่น้ำแร่ออนเซ็น ที่นี่เป็นสถานที่ใช้บำบัดรักษาโรคด้วยน้ำแร่ร้อนมาตั้งแต่ 300 ปีก่อน มีบ่อน้ำร้อนหลากหลายแบบไว้บริการ ทั้งบ่อชาย-หญิงในร่ม บ่อกลางแจ้ง บ่อกลางแจ้งแบบรวม บ่อไม้แบบรวม บ่อถังไม้แบบรวม 

โกโชกาเคะออนเซ็นเป็นโรงแรมแบบเรียวคังพร้อมบ่ออนเซ็นที่อยู่ภายในป่าสงวนแห่งชาติของญี่ปุ่นที่ความสูง 1,000 ม. จากระดับน้ำทะเล ซึ่งมีวิธีการแช่น้ำแร่ได้ถึง 7 แบบด้วยกัน เช่น “กล่องไอน้ำแร่” ที่เข้าไปอบอุ่นร่างกายในกล่องไม้ทั้งตัวและโผล่คอออกมาจากตัวกล่อง, “บ่อโคลนร้อน” ที่ใช้ประคบร้อนคลายกล้ามเนื้อทั้งตัว, พื้นร้อนที่ใช้ประโยชน์จากความร้อนของพื้น เป็นต้น และมีคอร์สการเดินสำรวจ “เส้นทางสำรวจธรรมชาติโกโชกาเคะ” ที่สร้างไว้ในโกโชกาเคะออนเซ็นซึ่งใช้เวลา 40 นาทีต่อการเดิน 1 รอบ คุณสามารถสำรวจปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรรมชาติของภูเขาไฟได้ ไม่ว่าจะเป็นบ่อโคลนร้อนภูเขาไฟที่พวยพุ่งออกมากจากพื้นดิน หรือบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่ปล่อยควันไอน้ำออกมา เป็นต้น

เป็นที่พักออนเซ็นบนภูเขาที่ความสูง 1,400 ม. จากระดับน้ำทะเล ซึ่งจะเปิดบริการเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ – ฤดูใบไม้ร่วงที่ถนนจุไคไลน์เปิดให้ผ่านทางได้เท่านั้น เป็นบ่อออนเซ็นลับแลที่บางพื้นที่ภายในไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ บ่อน้ำแร่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของกำมะถัน เป็นจุดที่สร้างบ่อแช่น้ำขึ้นตรงจุดตาน้ำแร่ที่น้ำผุดขึ้นมาทั้งอย่างนั้นเลย ทำให้คุณผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์ 100% และความรู้สึกเปิดโล่งเป็นอิสระด้วยธรรมชาติที่ห้อมล้อมรอบด้าน และสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของไซอุนโซแห่งนี้คือการชม “แสงอรุณ” ของพระอาทิตย์ขึ้นจากบ่อแช่น้ำยามเช้าและ “ทะเลหมอก” ราวกับภาพทิวทัศน์ที่ให้ความรู้สึกที่ชวนฝัน แม้ว่าการชมจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศก็ตาม แต่ภาพรุ่งอรุณยามเช้าอันน่าประทับใจนี้ก็มีเหล่าแฟนๆ ที่ติดใจมากมาย 

เป็นออนเซ็นหายากของญี่ปุ่นที่มีปริมาณน้ำออนเซ็นมากที่สุดในญี่ปุ่น โดย 1 จุดจะมีน้ำผุดขึ้นมาราว 9,000 ลิตรทุกๆ 1 นาที และเป็นน้ำแร่ที่มีความเป็นกรดสูงถึง p.h1.2 จึงได้รับความนิยมมากและมีผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นเดินทางมาเพื่อแช่ออนเซ็นที่นี่ เฉพาะที่ชินทามากาวะออนเซ็นจะเปิดบริการช่วงฤดูหนาวด้วย ช่วงปลายเดือนพ.ย. – ปลายเดือนเม.ย. ถนนทางหลวงหมายเลข 341 จากนิชินคังฝั่งทะเลสาบทาซาวะ ถึงแม่น้ำสุมิคาวะฝั่งคาสุโนะจะเปิดไม่ให้ผ่านทาง ไม่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้ จึงต้องเดินทางด้วยรถบัสที่วิ่งออกจากสถานีทะเลสาบทาซาวะแทน

・เวลาที่ระบุไว้เป็นเวลาโดยเฉลี่ย
・หลังจากกรอก MAPCODE แล้ว กรุณาตรวจสอบจุดหมายปลายทางให้แน่ใจก่อนจึงเริ่มออกเดินทาง

ระหว่างทางไปสถานที่แต่ละแห่งในรีสอร์ทออนเซ็นนิวโตจะเป็นถนนลาดชันแคบๆ จึง

รีสอร์ทออนเซ็นนิวโตมีบ่อออนเซ็น 7 แห่ง ซึ่งจะมีบริการรถบัสวนรอบเพื่อตระเวนไปตามออนเซ็นต่างๆ ชื่อว่า “ยุเมกุริโก” สำหรับแขกที่มาใช้บริการออนเซ็นรายวันสามารถชื่อตั๋ว “ยุเมกุริแมพ (600 เยน)” เพื่อใช้นั่งรถบัสรับส่งกี่เที่ยวก็ได้ภายในวันนั้นเพื่อเพลิดเพลินกับการตระเวนเที่ยวออนเซ็นต่างๆ “ซุรุโนะยุ” เป็นบ่อเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด ซึ่งยังมีบ้านนากายะหลังคามุงจากของญี่ปุ่นโบราณหลงเหลืออยู่ “คุโระยุออนเซ็น” เป็นที่พักออนเซ็นที่อยู่ติดกับแหล่งตาน้ำแร่ สามารถชมทิวทัศน์ของน้ำแร่ที่ผุดขึ้นมาได้ “มาโคะโรคุออนเซ็น” เรียกกันว่าเป็น “น้ำแร่ยารักษาแห่งภูเขา” ซึ่งยังมีคงอนุรักษ์บรรยากาศสถานที่สำหรับน้ำแร่บำบัดรักษาโรคเอาไว้ “กานิบะออนเซ็น” มีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งซึ่งแยกห่างออกมาจากตัวอาคารที่พัก สามารถสัมผัสกับทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลได้ “โอคามะออนเซ็น” เป็นที่พักออนเซ็นที่ย้ายอาคารโรงเรียนที่เป็นโครงสร้างไม้มาสร้างทำให้มีความแตกต่างไม่ซ้ำใครและมีบรรยากาศที่ชวนให้หวนคิดถึง “ทาเอโนะยุ” ผ่อนคลายไปกับเสียงสายน้ำไหลของแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวอาคาร  “คิวคะมุระ รีสอร์ทออนเซ็นนิวโต” เพิ่มปรับปรุงอาคารใหม่ เป็นอาคารที่ให้บรรยากาศแบบทันสมัยที่สุดในรีสอร์ทออนเซ็นนิวโตแห่งนี้

มีสินค้าท้องถิ่นหลากหลาย ทั้งผักสดใหม่ที่ปลูกในเมืองมิซาโตะที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ จุดที่น่าสนใจของที่นี่คือร้านอาหาร เมืองมิซาโตะกล่าวกันว่าเป็น “แหล่งต้นกำเนิดของนัตโตหรือถั่วหมักญี่ปุ่น” ร้านอาหารของที่นี่จึงมีเมนูที่ทำจากนัตโตมากมาย นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดนิยมของท้องถิ่นอีกมาก เช่น ข้าวคลุกเนื้อวัวท้องถิ่น เรียกว่า “มิซาโตะมัมมะ” และราเมงเส้นแบบจีนที่ใช้น้ำซุปแบบญี่ปุ่น ชื่อว่า “มิซาโตะทานุชู” เป็นต้น

ออนเซ็นของโอคุยามะเรียวคัง เป็นบ่อออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ กล่าวกันว่าเริ่มเปิดใช้บ่อมาตั้งแต่เมื่อ 1,200 ปีก่อน มีตำนานเล่าขานเรื่องหญิงสาวที่ต้องการลงแช่น้ำเพื่อรักษาความเจ็บป่วย แต่ระหว่างที่เธออายที่จะลงแช่เพราะน้ำใสมาก ก็มีเท็นกุปรากฏตัวขึ้นและทำให้น้ำกลายเป็นสีขาวขุ่น ชื่อบ่อ “โดโรยุออนเซ็น” ก็มาจากลักษณะของน้ำที่มีความขุ่นเหมือนกับน้ำโคลน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบรรยากาศเงียบสงบของบ่อออนเซ็นลับเลตามธรรมชาติอันเรียบง่ายของขุนเขา เป็นออนเซ็นที่มีผู้คนชื่นชอบมากมาย

・เวลาที่ระบุไว้เป็นเวลาโดยเฉลี่ย
・หลังจากกรอก MAPCODE แล้ว กรุณาตรวจสอบจุดหมายปลายทางให้แน่ใจก่อนจึงเริ่มออกเดินทาง

เป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์แปลกตาของพื้นที่สูงต่ำลาดชันและรกร้าง สมกับที่เรียกกันว่าเป็น “จิโกคุ (นรก)” ทั้งๆ ที่ภูเขาที่อยู่โดยรอบมีต้นไม้ปกคลุมมากมาย แต่เฉพาะตรงจุดนี้เท่านั้นที่พื้นดินเป็นสีเทาที่แม้ต้นหญ้าก็ไม่สามารถขึ้นได้ และมีไอน้ำพวยพุ่งออกมาเต็มไปหมด มีทางเดินไว้ให้เดินสำรวจที่ความสูงต่างกัน 200 ม. ซึ่งบรรยากาศจะอบอวลไปด้วยกลิ่นของกำมะถัน ทางฝั่งตะวันตกมีน้ำตกที่ใช้เป็นบ่อออนเซ็นอยู่ชื่อ “น้ำตกคาวาระเกะโอยุทาคิ” ภาพทิวทัศน์ของน้ำตกออนเซ็นที่มีน้ำแร่ไหลลงมาจากความสูง 20 ม. ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก น้ำตกออนเซ็นนี้ช่วงฤดูร้อนสามารถสวมชุดว่ายน้ำลงแช่ได้ 

เป็นสวน theme park ที่รวมเสน่ห์ของอาคิตะไว้ครบครัน มีทั้งจุดที่ให้ชม, สัมผัส, เล่น, และทาน ให้สนุกกันได้ทุกสภาพอากาศ ตั้งอยู่ติดกับโยโกเทะIC ทำให้เดินทางมาจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ หรือจากที่พักต่างๆ ได้สะดวก ที่นี่นอกจากจะมีร้านอาหารที่คุณสามารถลิ้มลองเมนูอาหารที่เป็นสีสรรของชนบทอย่าง “โยโกเทะยากิโซบะ” “อินานิวะอุด้ง” และ “จูมงจิราเมง” เป็นต้น และที่มุมสินค้าท้องถิ่นก็มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกซื้อรวบรวมเอาไว้มากที่สุดในจังหวัดอาคิตะ รวมถึงเหล้าสาเกญี่ปุ่นของท้องถิ่นด้วย นอกจากนี้ยังมีมุมทดลองประสบการณ์งานประดิษฐ์ต่างๆ ทั้งของหัตถกรรมกระจุกกระจิก และเครื่องประดับ เป็นต้น เป็นสถานที่ที่สนุกกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

“โชโฮเอ็น” ที่อยู่ในโควาคุบิออนเซ็นเป็นโรงแรมออนเซ็นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ซึ่งคุณสามารถเข้าพักที่อาคารเก่าแก่สร้างเมื่อราว 100 ปีที่แล้วซึ่งมีคุณภาพชั้นดีเยี่ยมได้ เป็นสถาปัตยกรรมที่แหวกแนวไม่เหมือนใคร และขณะเดียวกันก็มีความละเอียดอ่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความชำนาญของช่างฝีมือได้เป็นอย่างดี ภายในสวนบริเวณรอบอาคารมีต้นสนใบแหลมอายุ 400 ปีให้บรรยากาศเรียบหรูและมีพลัง น้ำแร่ที่นี่มีไอโอดีนความเข้มข้นสูงซึ่งหาได้ยากมากของโลก ทำให้น้ำมีสีน้ำตาลขุ่นลงแช่ได้ง่าย และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

สนามบินอาคิตะที่เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางนี้มีทั้งร้านขายของฝากของที่ระลึกและร้านอาหารครบครัน มีทั้งขนมญี่ปุ่นชื่อดัง และสินค้าเฉพาะของท้องถิ่นก็มีให้เลือกซื้อมากมายให้เพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อของได้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นอุด้งของอาคิตะที่เรียกว่า “อินานิวะอุด้ง” หรือ “โมโรโคชิ” ขนมของดังประจำอาคิตะ และสินค้าเกี่ยวกับนามาฮาเกะ และเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ลืมซื้ออะไรกลับไป แนะนำให้ลองแวะไปดูร้านค้าที่นี่อีกรอบก่อนเดินทางกลับ และภายในสนามบินยังมีบริการ Wi-Fi ให้ใช้ฟรีอีกด้วย คุณจึงสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานที่ที่จะเดินทางต่อไปหรือข้อมูลต่างๆ ที่สนใจได้อีกด้วย